ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้ง ป่าเบญจะพรรณ ป่าดิบเขาทุ่งหญ้า และป่าเต็งรัง มีนกชุกชุม กว่า 350 ชนิด ที่น่าสนใจและพบบ่อย เช่น นกขุนแผนหัวแดง (Red-headed Trogon) นกแต้วแล้วสีน้ำเงิน (Blue Pitta) นกกะ เต็นลาย (Banded Kingfisher) นกโพระดกคอสีฟ้าเคราดำ (Moustached Barbet) นกกก (Great Hornbill) นกพญาไฟใหญ่ (Scarlet Minivet) ส่วนนกที่ค่อนข้างหายากแต่หาดูได้ที่เขาใหญ่ เช่น ไก่ฟ้า พญาลอ (Siamese Fireback) นกโกโรโกโส (Coral-billed Ground-Cuckoo) นกยางลายเสือ (Malayan Night-Heron) และนกอ้ายงั่ว (Oriental Darter) เป็นต้น จุดดูนกที่ดี ในเขาใหญ่มีดังนี้ บริเวณรอบ ๆ ที่ทำการอุทยานฯ เส้นทางเดินเท้าหมายเลข 6 (ทางมอสิงโต) บริเวณกิโลเมตรที่ 45 ผากล้วยไม้ บริเวณน้ำตกเหวสุวัต ทางเดินเท้า-วังจำปี-หนองผักชี ด่านช้าง และในบริเวณจุดชมวิวทางลงไป ปากช่อง ซึ่งจะพบนกได้ค่อนข้างมากกว่าจุดอื่น ๆ
การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 สู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครรราชสีมา แล้วเลี้ยวขวาระหว่างกิโลเมตรที่ 165 -166 ขึ้นเขาไปอีก 40 กิโลเมตร หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 33 (นครนายก-อรัญประเทศ) ไปประมาณ 21 กิโลเมตร ถึง สี่แยกเนินหอม จังหวัดปราจีนบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3077 ไปอีก 45 กิโลเมตร มีจุดกางเต็นท์บริเวณ ผากล้วยไม้ หรือหากไปเป็นกลุ่มคณะ อาจทำหนังสือติดต่อไปที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. (02) 561-4292 ต่อ 724-5 เพื่อขอพักที่ค่ายพักเยาวชนได
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ เดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยรถยนต์ส่วนตัวได้ 3 เส้นทาง ได้แก่
1. จากถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิต ประตูน้ำพระอินทร์ สระบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ ผ่านมวกเหล็ก เลี้ยวขวาก่อนถึงอำเภอปากช่อง บริเวณกิโลเมตรที่ 56 มีป้ายบอกทาง ชิด ซ้ายขึ้นสะพานลอยรถข้ามไปตามทางหลวงหมายเลข 2090 หรือถนนธนะรัชต์ ตามทางถนนสายนี้ มี รีสอร์ทของเอกชนเรียงรายอยู่เป็นระยะ กิโลเมตรที่ 23 ของถนนเจอด่านตรวจฯ ด่านศาลเจ้าพ่อ นักท่อง เที่ยวต้องจอดรถลงไปเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ แล้วขับรถไปตามถนนที่คดเคี้ยวอีก 15 กิโลเมตร ถึงที่ทำการฯ รวมระยะทาง 205 กิโลเมตร
2. จากถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิต หนองแค เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) ที่หินกอง ผ่านตัวเมืองนครนายกถึงสี่แยกเนินหอมหรือวงเวียนนเรศวร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่ (ถนน หมายเลข 3077) เข้าสู่อุทยานฯ ด้านด่านตรวจฯ เนินหอม รวมระยะทาง 190 กิโลเมตร
3. จากถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวาบริเวณรังสิต เข้าทางหลวงหมายเลข 305 มุ่งสู่ตัวเมืองนครนายก แล้วเข้า ทางหลวงหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) เมื่อถึงสี่แยกเนินหอมหรือวงเวียนนเรศวร เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ปราจีนบุรี-เขาใหญ่ เข้าสู่อุทยานฯ ด้านด่านตรวจฯ เนินหอม
ทางรถโดยสารประจำทาง หากเดินทางขึ้นด้านอำเภอปากช่อง ต้องขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งสายตะวันออก เฉียงเหนือ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา หรือขึ้นรถไฟสายอีสานลงที่อำเภอปากช่อง ติดต่อเหมารถรับจ้างให้ไป ส่งที่ทำการอุทยานฯ หากต้องการประหยัดก็ขึ้นรถโดยสารปากช่อง-เขาใหญ่ หมดระยะที่ด่านตรวจฯ ด่านศาลเจ้า พ่อ โบกรถขึ้นเขาใหญ่
ถ้าต้องการขึ้นเขาใหญ่ด้านจังหวัดปราจีนบุรี ต้องนั่งรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-ปราจีนบุรี หรือกรุงเทพฯ- อรัญประเทศ ลงระหว่างทางสี่แยกเนินหอมเพื่อโบกรถหรือเหมารถขึ้นเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไม่มีบริการบ้านพัก ผู้ที่ต้องการค้างคืนบนเขาใหญ่จึงต้องกางเต็นท์ ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดสถานที่กางเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้ สำหรับผู้ที่ไม่มีเต็นท์ ทางอุทยานมีเต็นท์ให้เช่าในราคาคืนละ 80, 120 และ 150 บาท สำหรับเต็นท์ขนาด 2, 4 และ 6 คนนอน แต่ไม่มีเครื่องนอนให้ หรับค่ายพักเยาวชน ซึ่งเป็นเรือน นอนโล่ง ทางอุทยานฯ จัดไว้สำหรับเป็นที่พักของเยาวชนที่มาทัศนศึกษา แต่บางครั้งก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้า พักได้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายในการพักผ่อน ไม่เจาะจงที่จะพักค้างแรมบนเขาใหญ่ สามารถใช้ บริการของรีสอร์ทของเอกชนนอกเขตอุทยานฯ ตลอดสองข้างทางถนนธนะรัชต์ได้
ป่าดิบเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแรกของประเทศไทย มีอาณาเขตคาบเกี่ยวกับ 11 อำเภอ ของ 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก เป็นป่าผืนใหญ่ในเทือก เขาพนมดงรัก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำลำตะคอง แม่น้ำลำพระเพลิง และห้วยมวกเหล็ก มีเนื้อที่ 2,168.64 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,355,396.96 ไร่
สภาพทั่วๆ ไปประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนกันหลาย ลูก ได้แก่ เขาร่ม ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด 1,351 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เขาแหลม เขาเขียว เขาสามยอด เขาฟ้าผ่า เขากำแพง เขาสมอปูน และเขาแก้ว และยังประกอบ ด้วยทุ่งกว้างสลับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์
บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง แต่มีบางเส้นทางเท่านั้นที่เหมาะกับนักท่องเที่ยว เส้นทางบางสายมีทางแยกสับสน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้เดินป่าใหม่ ๆ จึงควรติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ช่วยนำทางไป นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอแผนที่เส้นทางเดินป่า คำแนะนำ และขอให้เจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวติดกับที่ทำการฯ
Privacy Policy for http://khaoyai-travel.blogspot.com
If you require any more information or have any questions about our privacy policy, please feel free to contact us by email at clickupmerry@gmail.com
At http://khaoyai-travel.blogspot.com, the privacy of our visitors is of extreme importance to us. This privacy policy document outlines the types of personal information is received and collected by http://khaoyai-travel.blogspot.com/ and how it is used.
Log Files
Like many other Web sites, http://khaoyai-travel.blogspot.com makes use of log files. The information inside the log files includes internet protocol ( IP ) addresses, type of browser, Internet Service Provider ( ISP ), date/time stamp, referring/exit pages, and number of clicks to analyze trends, administer the site, track user’s movement around the site, and gather demographic information. IP addresses, and other such information are not linked to any information that is personally identifiable.
Cookies and Web Beacons
http://khaoyai-travel.blogspot.com does use cookies to store information about visitors preferences, record user-specific information on which pages the user access or visit, customize Web page content based on visitors browser type or other information that the visitor sends via their browser.
Some of our advertising partners may use cookies and web beacons on our site. Our advertising partners include Google Adsense, .
These third-party ad servers or ad networks use technology to the advertisements and links that appear on http://khaoyai-travel.blogspot.com send directly to your browsers. They automatically receive your IP address when this occurs. Other technologies ( such as cookies, JavaScript, or Web Beacons ) may also be used by the third-party ad networks to measure the effectiveness of their advertisements and / or to personalize the advertising content that you see.
http://khaoyai-travel.blogspot.com has no access to or control over these cookies that are used by third-party advertisers.
You should consult the respective privacy policies of these third-party ad servers for more detailed information on their practices as well as for instructions about how to opt-out of certain practices. http://khaoyai-travel.blogspot.com's privacy policy does not apply to, and we cannot control the activities of, such other advertisers or web sites.
If you wish to disable cookies, you may do so through your individual browser options. More detailed information about cookie management with specific web browsers can be found at the browsers' respective websites.
เส้นทางการล่องแก่ง จะเริ่มจากสะพานท่ามะปรางค์ ไปตามห้วยลำตะคองซึ่งเป็นสายน้ำหนึ่งที่ไหลลงมาจากป่าเขาใหญ่ผ่านป่าอันร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ระดับความแรงของสายน้ำอยู่ในระดับ 2-3 มีความกว้างของลำน้ำไม่มากนัก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวในลักษณะครองครัว หรือนักท่องเที่ยวที่ชอบการท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ยังไม่เคยล่องเรือยางมาก่อน ควรใช้เส้นทางนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจในการล่องแก่งด้วยเรือยาง เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ไม่อันตรายสามารถล่องได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง เดือนตุลาคมของทุกปี โดยมีจุดสิ้นสุดที่ปางช้างเขาใหญ่ รวมระยะทางประมาณ 5 กม. ใช้เวลาการล่องประมาณ 1.30 ชม.
อัตราค่าบริการ ท่านละ 500.- บาท สำหรับ 8 ท่านต่อเรือ 1 ลำ กรณีไม่ครบ 8 ท่าน คิดค่าเช่าเหมาลำละ 3,800.- บาท บริการวันละ 2 รอบ รอบเช้าเวลา 09.00-12.30 น. และรอบบ่ายเวลา 11.00-14.30 น. โดยมีจุดนัดหมายที่โรงแรมเขาใหญ่คาวบอยซิตี้ อัตรานี้รวมค่าพาหนะเดินทางสู่ต้นแก่ง (ไป-กลับ) เรือยาง อุปกรณ์ล่องแก่งพร้อมชูชีพ เจ้าหน้าที่ควบคุมเรือ และประกันภัยการเดินทาง สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาใหญ่-ปากช่อง โทร.044-312230--จบ--
Khao Yai Travel Information
Many nature lovers in Bangkok are often looking for a place to relax that's not too far from the city. Khao Yai is always a favourite for those who are truly in need of a place where they can really get back to nature. The main reason is its relatively close proximity to the city.
Since being declared Thailand's first national park in 1962, Khao Yai has been a very popular attraction. People go there for various outdoor activities ranging from education, camping, trekking, wildlife watching, bird watching, mountain biking and even river rafting.
Access by road is easy and as you approach the park both sides of the road are lined with restaurants, mini-marts, guesthouses, resorts, lodges and golf courses. It may be that there are too many people coming here and the forest is in danger of being destroyed.
The destruction of Khao Yai has been so heavy at times that in 1992 the government of Prime Minister Anand Panyarachun ordered the park to be closed for reforestation purposes. Some hotels and resorts as well as golf courses were scrapped as a result.
After a while, Khao Yai was reopened and welcomes tourists again, but this time there was an attempt to be more cautious about tourism development.
Yet problems still remain, especially regarding encroachment and the amount of garbage caused by tourism. Please try to be good tourists and to travel with respect for nature.
Trekking at Khao Yai
Although various points of interest at Khao Yai can be easily accessed by car, our group of young, energetic and enthusiastic trekkers chose the more adventurous path trekking.
There are five nature trails of different distances. Each trail has signposts that tourists can follow. Walkers can also request to have a park ranger from the national park's headquarters accompany them as a guide. In the rainy season, trekkers should beware of leeches. There's nothing to worry about you can use an anti-leech bag. During the rainy season you should also carry a raincoat.
Half Day Hike
The most popular route in Khao Yai is a half day walk from Dong Tiew to Nong Phak Chi Wildlife watch towers. The starting point was just opposite the park's headquarters. Followed the signs at the roadside and in a short while you will be in a dense forest. Further on is the jungle where the sounds of insects and birdsong replaced the noise of the cars on the road outside.
There was plenty of wild mushrooms, flowers, and streams to be spotted on this 5.4-kilometre trail. There were also great variety of birds, including Hornbills, Dollarbirds, red-headed Trogons, Drongos, Greater Racket-tailed Drongos and red-mottled Lapwings.
It takes about three hours to reach the Nong Phak Chi viewing point. The tower here is to help people observe wildlife at the nearby salt lick. You may be lucky enough to see wild dogs or even a herd of elephants. The watch tower is only a kilometre from the road, so it's quite a popular visitor spot.
Full Day Hike
A more adventuresome, one day hike is from the park headquarters to Heaw Suwat waterfall, a distance of 8.1 kilometres, and then to continue for another 4.5 kilometres to Thung Khao Laem.
Heaw Suwat is easily accessible by car but if you plan to test your physical strength on the long and tough route, it may be advisable to request a park ranger as a guide
The trail started very close to the office where you will be greeted with the echoing sounds of gibbons. With a guide you will not only feel safe but you will be able to observe him on duty.
The ranger will help pave our way through the wilderness, especially the parts where the trail was covered with piles of dead trees. He will be able to point out interesting plants and even wild animal tracks.
Normally the ranger's job is to search for the poachers who come into the jungle illegally to cut valuable wood or hunt wildlife. It's still a big problem for Khao Yai. Sometimes they come across the encroachers and have to exchange fire with them. Some rangers have lost their lives on duty and the world outside never hears about it. It is good to know rangers are so devoted to protecting the national heritage, and yet receive very little pay.
Birdwatchers on this trail will be delighted to see Oriental pied Hornbills, Silver-breasted Broadbills, Red-whiskered Bulbuls, Black-crested Bulbuls and many other birds. The park is home to more than 300 bird species.
It is an exhausting six hours from the starting point to Heaw Suwat waterfall. From there is another 4.5 kilometres to Thung Khao Laem or Khao Laem prairie and the only way to get there was to walk.
After three hours tramping in the wilderness, you will see the vast green prairie stretching out ahead.
Thung Khao Laem is a vast field of high grass. Legend has it that the area was once a rural community. Evidence of the existence of this community can still be seen and the ruins of an old temple remain
About Khao Yai
Khao Yai was proclaimed a national park in 1962. It is more than 1,600 square kilometres spanning four provinces: Nakhon Nayok, Prachinburi, Saraburi and Nakhon Ratchasima. With its great diversity and abundance of wildlife, Khao Yai has also been honoured as part of the Natural Heritage of Asia. It has served as a prototype for other national parks in Thailand.
Accommodation
As you arrive at Khao Yai, go to the Tourist Service Centre for details on accommodation or to request a park ranger to accompany you on a trek.
Khao Yai offers a wide range of accommodation for visitors. There are campsites at Pha Kluai Mai and Lam Ta Kong. The fee is 30 Bahtper person.
The campsites can be quite crowded. There are public toilets and bathrooms.
Getting There
By Car:
Khao Yai is easily accessible by car. Take the Pak Chong or Prachinburi routes from Bangkok.
Prachinburi route: take highway No. 305 from Rangsit-Ongkharak road to Nakhon Nayok and follow highway number 33, then turn left at Naresuan ring road and follow highway No. 3077 and after about 10 km you'll reach the park headquarters. This route is a shorter distance from Bangkok but steeper. This route is also more scenic and has many points of interest. Heaw Narok waterfall is a short distance if you take this route.
Pak Chong route: Follow highway No. 1 to Saraburi province, then turn right to route No. 2 which goes to Pak Chong. Then take highway No 2090 for about 20 kilometres and you'll reach the entrance. The Pak Chong route is longer.
Map of Khao Yai National Park
You can find in www.packchongdd.com toresort and hotel.
For Example Holtel...Beautiful !
บริเวณอ้างอิง/จุดสังเกต: ตรงข้ามเขาแคนน้อย หรือประตูสู่อีสาน
ราคาที่พักเริ่มต้น/คืน (วันธรรมดา): 800 บาท/Bath
ราคาที่พักเริ่มต้น/คืน (วันหยุดพิเศษ): 1,000 บาท/Bath
วันเปิดบริการ: เปิดทุกวัน
เปิดเวลา: 24 ช.ม
จำนวนห้องทั้งหมด: 42
สิ่งอำนวยความสะดวก (นอกห้องพัก): สระว่ายน้ำ • ร้านอาหาร • ไฮสปีดอินเตอร์เนต
สิ่งอำนวยความสะดวก (ในห้องพัก): เครื่องทำน้ำอุ่น • โทรทัศน์ • เครื่องปรับอากาศ • ตู้เย็น
ที่อยู่: 430 ถ.มิตรภาพ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130
เบอร์ติดต่อ: 081-265-1190 044-313364 - 6
อีเมลล์: rimtarninn@yahoo.com
เว็บไซต์ :: http://www.rimtarninn.com
ริมธารอินน์ เป็นโรงแรมในตัวเมืองปากช่องที่มีชื่อเสียงมานาน และเป็นที่พักแรกๆของปากช่องด้วย เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกที่ มีร้านอาหารบรรยากาศดี ชื่อ ระเบียงน้ำ
โรงแรมจะอยู่ตรงข้ามเขาแคน หรือประตูสู่อีสาน พอมีงานต่างๆก็จะจัดที่ตรงนี้ และริมธารอินน์เหมาะมากที่จะพักหรือใช้บริการ
โดยรวมถือว่าเป็นโรงแรมในตัวเมืองปากช่องที่น่าสนใจ เพราะมีร้านอาหารบรรยากาศดี ราคาไม่แพง โรงแรมติดถนนใหญ่ ใกล้กับสถานที่จัดกิจกรรม
ทวิกาญจน์ รีสอร์ท อยู่บริเวณสามแยกไฟแดงไปเขาใหญ่ ถ้ามาจาก กทม จะเลยโลตัสไป1กม และเลี้ยวซ้ายก่อนถึงไฟแดง ตรงเข้าซอยไปได้ซัก 2กม ก็จะถึงรีสอร์ทอยู่ด้านขวามือ
สนใจติดต่อคุณอ๊อด ทวิกาญจน์ รีสอร์ท 087-2566-117
ห้องจะติดกัน แล้วมีสนามหญ้าตรงกลางดูร่มรื่นเป็นพิเศษ
สังเกตุมองจะเห็นเลขห้องเป็นชื่อของจังหวัดต่างๆของประเทศไทย อย่างห้องนี้เป็นจังหวัดเชียงใหม่
ห้องพักดูสะอาดตา
มีฟาร์มม้าอยู่ด้านข้างๆของรีสอร์ท เท่าที่ถามคุณอ๊อตก็สามารถไปขี่ได้ โดยจะมีค่าบริการด้วย แต่ก่อนจะขี่ม้าอาจต้องแจ้งทางรีสอร์ทก่อนล่วงหน้า
ช่วงหน้าหนาว ต.ค - ก.พ ที่เขาใหญ่จะมีกิจกรรมกางเต้นท์ เพื่อเที่ยวป่า น้ำตก ชมธรรมชาติ ส่องสัตว์ และกิจกรรมอื่นๆกัน เพราะหน้าหนาวที่นี่จะมีอะไรให้เราประทับใจหลายๆอย่าง เราอาจจะเห็นบางสิ่งที่เราไม่เคยพบ ที่ไหนก็อาจไม่มี แต่มีที่เขาใหญ่ ปากช่องครับ
ตรงช่วงปากทางเข้าเขาใหญ่ อยากให้แวะกราบไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ด้วย เพื่อให้ท่านคุ้มครองเราจากภัยทั้งปวง
ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะนิยมมากางเต้นท์แถวๆผากล้วยไม้กันซะส่วนใหญ่ แต่มีที่กางหลายจุดอยู่เหมือนกัน
จะมีสถานที่ติดต่อสำหรับท่านที่ต้องการจะมากางเต้นท์นอนกัน ว่าค่าบริการเท่าไร มีอะไรให้เช่าบ้าง
แน่นอนว่าต้องมีกฎข้อบังคับ กรุณาทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่างๆขึ้น
ก็จะมีคนทั่วประเทศมาเที่ยวและกางเต้นท์กันทุกๆปี ไม่เหงาแน่นอนครับ
หรือคุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dnp.go.th หรือติดต่อเจ้าหน้าที่
ตู้ ปณ.9 อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา 30130
โทรศัพท์ 08 1877 3127, 08 6092 6531, 08 1 063 9241 อีเมล khaoyai_np@hotmail.com
ส่วนรายละเอียดและจุดแผนผังกางเต้นท์นั้นลองคลิกที่นี่เพื่อดู อัตราค่าบริการและแผนผัง
บริเวณอ้างอิง/จุดสังเกต: แถวสถานีรถไฟอำเภอปากช่อง ตึกเดียวกับศูนย์ DTAC
เบอร์ติดต่อ: 044-280068 081-0633088
เมนูแนะนำ: โอริโอชีสเค้ก , เค้กมะพร้าวอ่อน เค้กชอคโกแลต เค้กส้มวาเลนเซีย บราวนี่ นิวยอร์คชีสเค้ก
รายละเอียดอื่นๆ: รับทำเค้กงานแต่งงาน เค้กสำหรับทุกงานมงคล
เพื่อนๆที่มาเที่ยวปากช่อง เขาใหญ่ และต้องมาจัดกิจกรรมงานมงคลต่างๆที่ต้องใช้เบเกอรี่ หรือเค้ก แนะนำไม่ต้องซื้อมาจาก กทม หรือที่อื่นก็ได้
เพราะมา่ถึงก็ไม่อร่อยแล้ว แถมอาจจะสภาพไม่สวยอีกต่างหาก แนะนำให้สั่งจากร้านนี้ก็ได้ โทรมาสั่งไว้ว่าต้องการเค้กแบบไหน กี่ปอนด์ เพราะร้านนี้รับสั่งเค้กพร้อมส่งด้วย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา อร่อยอีกต่างหาก หลายท่านแจ้งว่าใช้บริการตรงนี้สะดวกมากๆ เพราะไปส่งได้ทุกที่ เขาใหญ่ ปากช่อง รีสอร์ท โรงแรมต่างๆ
รับทำเค้กงานมงคล เช่น เค้กวันเกิด เค้กแต่งงาน เค้กที่ระลึก เค้กงานปาร์ตี้ สัมมนา walk rally จัดทัวร์ต่างๆ และมีเค้กหน้าแปลกๆที่คุณอาจไม่เคยชิมที่ไหนมากก่อน
ชีสเค้ก(Cheese Cake) บลูเบอรี่ชีสเค้ก สตอเบอรี่ชีสเค้ก โอริโอชีสเค้ก เค้กชิฟฟ่อน เค้กนมสดบลูเบอรี่ เค้กสตอเบอรี่ เค้กกาแฟ เค้กสังขยามะพร้าวอ่อน เค้กส้ม เค้กเผื่อก
ติดต่อสั่งเค้กได้ที่ เบอร์ติดต่อ: 044-280068 081-0633088
อิ่มอาหาร ชมวิวเขื่อนลำตะคอง ที่ "สวนเมืองพร"
บรรยากาศโต๊ะนั่งริมลำตะคองที่ร้านสวนเมือง "ผ่านมาแวะกิน" มีโอกาสไปเที่ยวเมืองย่าโม โคราช หรือจังหวัดนครราชสีมาที่ "สวนเมืองพร" ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและอนุรักษ์ที่น่าส นใจ ที่นี่มีซุปเปอร์มาร์เก็ตต้นไม้ที่รวบรวมพันธุ์ไม้นา นาชนิดๆ ให้ได้ชมและเลือกซื้อหากันสำหรับคนที่ชื่นชอบต้นไม้
สำหรับ "ผ่านมาแวะกิน" แล้วที่สวนเมืองพรไม่ใช่แค่ที่เที่ยวเท่านั้น เพราะที่นี่ถือว่าเป็นที่กินที่ถูกใจนักกินอย่างเร เพราะภายในสวนเมืองพรมีพื้นที่เป็นส่วนของร้านอาหาร ที่มีบรรยากาศชวนนั่งร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีมุมโต๊ะนั่งริมระเบียงที่จะได้ชมวิวสวยๆ ของอ่างเก็บน้ำลำตะคอง สัมผัสกับสายลมเย็นสบายๆ และยังมีโซนห้องแอร์มิวสิคสตูดิโอ ที่จะมีดนตรีสไตล์บราซิลเลียนเล่นให้ฟังทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่ 20.00-23.00 น.
สเต็กป่าจานร้อนด้านเมนูอาหารของที่นี่ก็มีความหลากหลายชวนกิน อย่างเมนูเด็ดที่เราได้ลิ้มลองแล้วอยากนำมาเสนอ ก็มีสเต็กป่าจานร้อน (430 บาท) สเต็กเนื้อนกกระจอกเทศที่เสิร์ฟมาบนกระทะร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ทางร้านใช้เนื้อส่วนสันในของนกกระจอกเทศนำมาย่างบนเต าพร้อมกับทาด้วยน้ำเกรวี่สูตรเด็ดที่ทางร้านคิดค้นขึ ้นมาเอง ย่างจนเนื้อสุกได้ที่นำมาใส่ในกระทะร้อน ราดด้วยน้ำเกรวี่อีกที เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียง ที่มีให้เลือกถึง 2 แบบ คือ มีสลัดที่มาคู่กับครัวซองที่ตีจนแบนเหมือนโรตี หรือจะเลือกส้มตำไทย ที่มาคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและข้าวเหนียว เพียงแค่ได้ลิ้มรสชิ้นเนื้อสเต็กนกกระจอกเทศ ที่เนื้อเป็นสีชมพู เคี้ยวนุ่มหนึบปาก ฉ่ำซอสเกรวี่หอมๆ รสเข้มข้นโดนใจ
ปลาทับทิมอบซอส ต่อด้วย ปลาทับทิมอบซอส (235 บาท) เป็นปลาทับทิมสดๆ ตัวโตกำลังดีทาด้วยน้ำซอสบาร์บีคิวแล้วนำไปอบจนเปลาส ุก เสิร์ฟมาพร้อมกับผักกะหล่ำปลีต้มสุก ซึ่งการกินปลาเมนูนี้แนะนำว่ากินเหมือนกินเมี่ยงจะได ้รสชาติที่ดี คือ นำเนื้อปลามาห่อด้วยผักกะหล่ำปลีราดน้ำจิ้มซีฟู้ด แล้วห่อเป็นคำส่งเข้าปาก เคี้ยวสัมผัสได้ถึงความกรอบหวานของผักต้มผสานกับเนื้ อปลาทับทิมที่เนื้อแน่นหวาน หอมกลิ่นซอสบาร์บีคิว กลมกลึงเข้ากับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เปรี้ยว เผ็ดถูกปาก
อีกหนึ่งเมนู คือ เต้าหู้กระทะร้อน (120 บาท) ลักษณะเป็นไข่เจียวบางๆ ที่ทอดด้วยเนยหอมๆ บนกระทะร้อน แล้วก็มีเต้าหู้ไข่ใส่หมูสับที่ทางร้านปรุงขึ้นมาโดย เฉพาะ แล้วนำมาวางบนไข่เจียวอีกที กลิ่นหอมอ่อนๆ ของไข่เจียวและเต้าหู้ชวนกิน ลิ้มรสชาติเต้าหู้อ่อนนิ่มรสนุ่มละมุนลิ้น ส่วนไข่เจียวก็รสดีกินเข้ากันกับเต้าหู้ร้อนๆ
นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดเมนูที่ชวนกิน อาทิ ยำซาโยเต้กุ้งสด (135 บาท) ส้มตำนางฟ้า (100 บาท) หน่อไม้ฝรั่งน้ำมันหอย (80 บาท) ต้มแซ่บกระดูกอ่อน (หม้อไฟ 180 บาท) เรียกว่าหากมาที่ "สวนเมืองพร" ได้ทั้งเที่ยวสนุก และอิ่มสบายท้องกลับบ้านไป
ผมก็เพิ่งทราบว่าที่มาของชื่อนี้มาได้ยังไง เพราะเห็นป้ายนี้เองครับ
ร้านของฝาก ส่วนใหญ่ก็จะจำหน่ายเครื่องดิ่มต่างๆ เช่น น้ำผลไม้ น้ำองุ่นสด ไวน์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น นำมาฝากจำหน่ายกัน
ดอกไม้ถ้ามาเยี่ยมชมตอนช่วงหน้าหนาวจะสวยงามเป็นพิเศษ เพราะหน้าหนาวดอกไม้นานาพรรณจะออกดอก
สวนเมืองพร ปากช่องยังมีอะไรให้คุณเดินชมอีกไม่น้อยถ้าคุณเองเป็นนักเที่ยวธรรมชาติ คุณจะหลงไหลไปกับสถานที่แห่งนี้โดยไม่รู้ตัว
โซนร้านอาหารก็จะมีอาหารทุกประเภท อีสาน ไปจนถึงสเต็กที่ปากช่องนิยมกัน
น้ำแตงโมปั่น เครื่องดื่มที่เราสั่งกันมาเพราะความกระหายและความสดชื่น
เมนูของสวนเมืองพร หน้าปกจะเป็นกระเพราไข่เจียว...
ชานมเย็นและชามะนาว
เจ้าสาวของงานนนี้อยากทานส้มตำขึ้นมา ลองดูสิว่าเป็นยังไงบ้าง..
สเต็กปลาแซลมอน สั่งมาทานกัน 2จานเพื่อสุขภาพ ทานปลาบ้างแล้วกัน
ไก่ย่าง สั่งมาคู่กับส้มตำ ก็มันขาดกันไม่ได้นิหน่าา
ยำปลาดุกฟู ไม่รู้ใครสั่งมา แต่ขอถ่ายภาพเก็บไว้ก่อนแล้วกัน
Music Studio coffe&bar เป็นโซนที่ทำขึ้นใหม่สำหรับนักดื่มและนักเที่ยวยามกลางคืน จะมีดนตรีสดในช่วงคืนวันศุกร์ เสาร์ของทุกๆสัปดาห์
เครื่องดื่ม กาแฟหลากชนิด กับบรรยากาศริมลำตะคอง Music Studio coffe&bar สวนเมืองพรเป็นอีกที่นึงที่น่าจับตามองในปากช่อง
Walky Talky หรือวิทยุสื่อสารที่สวนเมืองพรได้นำมาเป็นตัวช่วยในการประสานงานของทีม ถ้าได้ไปจะได้ยินเสียงเจ้า่ตัวนี้ร้อง เสียงจะเป็นเอกลักษณ์มาก
โดยรวมสวนเมืองพรก็คือร้านอาหารที่น่าสนใจอีกที่นึง สำหรับใครที่ผ่านมาปากช่อง หรืออีสาน วันนี้เรามาทานมื้อเที่ยงกันหลังจากขึ้นไปถ่ายภาพ wedding ให้กับญวง(เจ้าบ่าว)ด้านบน ที่อ่างเก็บน้ำเขายายเที่ยง ซึ่งจะต้องผ่านสวนเมืองพรอยู่แล้ว เราเลยได้มีโอกาสมาเก็บภาพมาให้เพื่อนๆได้ชมกัน ขอบคุณญวง โรงพิมพ์เฉลิมชัย ด้วยนะครับ สำหรับมื้อเที่ยงที่อบอุ่น...ไปด้วยความรัก
***************************************************************************************
ที่ตั้งของร้าน
"สวนเมืองพร" ตั้งอยู่ที่ 204/44 หมู่ 1 ถ.มิตรภาพ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ แยกขวามือ หลัก กม.196 เป็นทางขึ้นเขายายเที่ยง เพียง 400 ม. แล้วแยกขวาอีก 100 ม. ก็จะเห็นสวนเมืองพร เปิดทุกวัน เวลา08.00-21.00 น. โทร. 0-4432-3263, 0-4432-3459-60 จองโต๊ะล่วงหน้าได้โทร. 08-1266- 1772
